คุณหมอท่านนี้ให้ข้อมูลไว้ดีค่ะ เลยเอามาแบ่งปันกัน 🙏🏼❤️ เป็นห่วงนะคะทุกคน เป็นห่วงตัวเองด้วยค่ะ 😅 ทำได้แค่ระวังให้มากที่สุด ลด ละ เลิก สิ่งที่ตัวเองอยากทำในช่วงนี้ สู้กับใจตัวเองนี่แหละค่ะ
“คนไทยควรทำอย่างไรในภาวะวิกฤติ”
(โดย นายแพทย์ ชำนาญ ภู่เอี่ยม)
ในวิกฤติการณ์โควิด-19ที่อันตรายที่สุดของประเทศไทยขณะนี้...
เป็นการระบาดคลื่นลูกที่3หรือไม่?
มีการกลายพันธุ์หรือไม่?
ทำไมช่วงนี้มันจึงระบาดในเมืองไทยมาก?
-คำตอบก็คือ สายพันธ์ที่ระบาดจากสถานบันเทิงทองหล่อนั้น ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นสายพันธ์อังกฤษ ที่ระบาดได้รวดเร็วกว่าปกติ1.7เท่า และผู้ที่ติดเชื้อแม้ไม่มีอาการก็มีการสะสมของเชื้ออยู่ในร่างกายสูงมาก นั่นคือสาเหตุทำให้โควิด-19ช่วงนี้ติดต่อได้ง่าย...
-ส่วนจะเป็นคลื่นลูกที่3 ที่รุนแรงจนควบคุมไม่อยู่หรือไม่ คำตอบคือ “อยู่แค่เอื้อม”
-ส่วนทำไมมันจึงระบาดในเมืองไทยในช่วงนี้?...คำตอบอยู่ข้างล่างทั้งหมด มันเป็นผลที่เกิดจากเหตุ....
-เราควบคุมแรงงานเถื่อนไม่ได้...
-เราควบคุมบ่อนการพนันไม่ได้...
-เราควบคุมพฤติกรรมนักพนันไม่ได้....
-เราควบคุมผู้ละเมิดมาตรการรัฐไม่ได้...
-เราควบคุมจิตสำนึกของผู้อื่นไม่ได้...
-เราควบคุม TIME LINE ผู้อื่นไม่ได้...
-เราควบคุมม็อบไม่ได้...
-เราควบคุมนักการเมือง ทั้งในและนอกสภาที่มีอคติต่อชาติบ้านเมืองไม่ได้...
-เราควบคุมพฤติกรรมของคนไทยไม่ได้...
-เราไม่ทำการค้นหาเชิงรุกอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอ เราจึงทราบจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงไม่ได้...
-เรายังเปลี่ยนนิสัยดั้งเดิมไม่ได้ อันได้แก่ รักสนุก รักสบาย มักง่าย รักเที่ยว รักกิน ติดประมาท ติดคำว่าไม่เป็นไร วินัยเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง ติดโควิดเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องมั่วเป็นสิทธิ์ของกู...
จะเห็นได้ว่า ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเราแทบจะไปควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรคนอื่นเขาไม่ได้เลย...
ในเมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ หนทางเดียวที่จะทำได้ คือ หันมาเปลี่ยนแปลงตนเองกัน....
บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องหันมาเปลี่ยนแปลงตนเองกันได้แล้ว...
1. ”อย่าตกใจกับจำนวนผู้ติดเชื้อ”...
เราต้องยอมรับและทำใจว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประเทศไทยเราอาจต้องพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากมายกว่าที่คาดคิด...
- เพราะในแง่ความเป็นจริง สังคมไทยไม่ใช่ปลอดเชื้อโควิดมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ทำการค้นหาโควิด-19 เชิงรุกอย่างจริงจัง เพราะสถิติมันฟ้อง “ยิ่งค้นหา ยิ่งตรวจ ก็ยิ่งพบผู้ติดเชื้อ”...
- จำนวนการพบผู้ติดเชื้อมากเท่าไรไม่สำคัญ สำคัญที่เราต้องป้องกันตนเอง
ทุกคนต้องระวังตนเอง และ ป้องกันตนเองโดยไม่ไว้ใจผู้อื่น (Universal Precaution) ..ให้คิดอยู่เสมอว่าผู้ที่อยู่ใกล้เราคือผู้ติดเชื้อโควิด-19...
ถ้าเรามีวินัย ป้องกันตนเองตลอดเวลาโอกาสที่เชื้อโรคจะทำร้ายเราได้ ก็เป็นไปได้ยาก...
“ต่อให้น้ำท่วมโลก ก็ไม่สามารถทำให้เรือของเราล่มได้ ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำให้ไหลเข้ามาในเรือเรา..โควิด-19 ก็เช่นกัน มันไม่สามารถทำร้ายเราได้เลย ถ้าเราไม่เผลอตัวไปให้โอกาสมันเข้ามาในตัวเรา”
2. ”ต้องช่วยกันชลอการติดเชื้อ”...
ถ้าเราชลอไม่ได้ คือ “ความหายนะของชาติ”...เราต้องยอมรับว่า ขณะนี้เราไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อภายในประเทศได้ และไม่สามารถทำให้สงบโดยในระยะเวลาอันสั้น
- แต่เราสามารถ”ชลอการติดเชื้อ”ได้โดยให้คนไทยช่วยกันด้วยเทคนิคง่ายๆ ...คือ “ล๊อคดาวน์ตนเอง” คืออยู่บ้านให้มากที่สุด ลดการเคลื่อนย้ายต้นเองไปในที่อื่น ไม่เผ่นผ่านไปในจุดเสี่ยง จะทำให้เกิดภาพรวม คือลดการไปมาหาสู่กันในสังคม”สักระยะหนึ่ง..
- เพราะหลักการป้องกันโรคติดต่อ มีอยู่นิดเดียวเท่านั้น คือ..”โรคติดต่อ.. ถ้าเราไม่มีการติดต่อ โรคก็จะไม่ติดต่อ”....
- การชลอการติดเชื้อ เป็นเสมือนการชลอน้ำที่ไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำด้วยความเร็วที่ช้าลง.. ป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรุนแรงพร้อมกันทั้งแผ่นดิน...
- ประโยน์ของ”การชลอการติดเชื้อ” คือ ทำให้โรงพยาบาลมีเตียง มีอุปกรณ์การแพทย์ และ กำลังบุคลากรทางการแพทย์รองรับพอเพียง และ ได้สัดส่วนกับผู้ป่วย...รวมทั้งอัตราการหายป่วยมีมากกว่าการเจ็บป่วย...
3. เราต้อง SAVE ตนเองให้นานที่สุดเพื่อรอรับวัคซีน ส่วนท่านที่รับไปแล้วก็ต้องป้องกันตนเองด้วย เพราะวัคซีนจะช่วยป้องกันเราได้ดีก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือน และต้องฉีดให้ครบขนาด ส่วนภูมิคุ้มกันหมู่คงไม่เกิดเร็วนี้ เพราะต้องให้ครอบคลุมอย่างน้อย75%ของประชากร อย่างไรก็ตามความหวังก็ยังอยู่แค่เอื้อม...
- ระหว่างนี้อย่าให้พลาดท่าป่วยด้วยโควิด-19 เป็นอันขาด ถึงแม้ว่าป่วยแล้วไม่ตาย แต่อวัยวะต่างๆ อาจโดนทำลาย..ไม่ว่าสมอง เส้นเลือด หัวใจ ไต ..อาจถูกทำลาย ไม่กลับสู่สภาพเดิมได้ และ อย่าหวังมีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อ เพราะอันตรายมาก....
4.ในภาวะวิกฤติ คนไทยจะต้องรู้จักอดทนอดกลั้น มีวินัย อย่าโอดครวญ โวยวาย ขัดขวางมาตรการรัฐ..ควรรู้จักเก็บอาการกันไว้บ้าง..
- ที่สำคัญคือ ควรมีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ และ รับผิดชอบต่อสังคมกันมากกว่านี้...
- ประเทศญี่ปุ่นช่วงที่เผชิญสึนามิ-แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ล่าสุด คนญี่ปุ่นร่วมกันเผชิญวิกฤติการณ์ด้วยสติ..มีความอดทนอดกลั้น-มีความสามัคคี-มีวินัย-มีน้ำใจ-ห่วงใยต่อกัน...
- จงอดทนอดกลั้น มีน้ำใจ ห่วงใยต่อกัน...
บทสรุป :
การสู้กับโควิด-19 ไม่ใช่การสู้กับเชื้อโรคร้ายอย่างตรงไปตรงมา โควิดเป็นเพียงครึ่งร่าง ที่มาอาศัยมนุษย์เราเพื่อการเจริญเติบโตและการกลายพันธุ์เท่านั้น...!!
แต่มันทำให้มนุษย์เราต้องต่อสู้กับจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน....
การสู้กับโควิด-19 จะเป็นการพิสูจน์ต้นทุนทางจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ในแต่ละสังคมว่า จะมีมากน้อยเพียงใด..
สำหรับประเทศไทย..!!
ถ้าผลออกมาไม่ดีอย่างไร เราก็ต้องทำใจยอมรับมัน เพราะต้นทุนเรามีกันเพียงเท่านี้ อย่าได้คิดค้ากำไรเกินควรเลย...!!
Chamnan._
นายแพทย์ ชำนาญ ภู่เอี่ยม
8/04/64